Monday, November 2, 2009

Halloween Day

ที่โรงเรียนจีโน่จัดงาน Halloween แล้วเค้าให้เด็กไปร่วมกิจกรรมด้วยเมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลา ประมาณ 1 ชั่วโมงแต่ผู้ปกครองต้องอยู่ด้วยตลอด เพราะครูดูแลไม่ไหว.......

ม่าม้าจีโน่ก็เลยต้องไปหาชุดมาให้จีโน่ใส่ สรุปได้ชุด Batman น้อยนี่แหละ ไม่น่ากลัวเกินไป ราคาประมาณ 20 ยูโร ประมาณ พันบาท แต่คำนวณแล้วปีหน้าย้ายโรงเรียนแล้ว เอามาใส่อีกก็ไม่เป็นไร ไม่มีใครจำได้ แล้วม่าม้าก็ซื้อตัวใหญ่กว่าจีโน่ น่าจะยังได้อยู่ ถ้าใส่ไม่ได้แล้วก็เอาไปขายก็น่าจะได้ เอาก็เอา ......

จีโน่เห็นชุดแล้วชอบมาก ใส่ไม่ยอมถอดเลย ครูที่โรงเรียนชมกันใหญ่ว่าน่ารักมาก

น่ากลัวมั้ยคร๊าบ batman กางปีกแล้ว


อ้าว แอบไปเอาหมวกเพื่อนมาใส่ตอนไหนเนื่ย ม่าม้าไม่เห็นเลย


คนนี้จะให้ม่าม้าไปขอให้ใช่มั้ย ได้เลยลูก สวยน่ารักใช้ได้เลย

คนนี้คุณครูประจำชั้น หอมฟอดใหญ่เลย ใส่ชุดสีเดียวกันกับจีโน่เลย

จับเด็ก เป็นความวุ่นวาย ที่น่ารักที่สุด กว่าจะได้รูปสวยๆ ยากมากๆ


ไม่เอาข้าว ไม่กินข้าว

ช่วงนี้จีโน่ไม่กินข้าวเลย ไม่กินข้าวมาประมาณเดือนหนึ่งได้แล้ว บ้อนได้สองคำก็คายออกมา แล้วก็เริ่มไม่กินผักบางอย่าง ทุกทีกินทุกผักเลยไม่เลือก เดี๋ยวนี้เริ่มเลือกได้แล้ว ม่าม้าหนูก็ต้องเปลี่ยนมาทำอาหารฝรั่งให้กินแทน ต้องไป search ใน internet ว่าเค้ากินอะไรกัน ก็เลยได้เมนูให้จีโน่กินช่วงนี้


ตอนเช้า ขนมปังปิ้ง 1 แ่ผ่น ใส่ชีส 2 แผ่น นมหนึ่งกล่อง กล้วยหอมประมาณครึ่งลูก แล้วก็ yogurt ถ้วยเล็ก

ตอนสิบโมง ผลไม้ หลายๆอย่าง กินได้หมด Apple, แพร, strawberry, มะม่วง, cantaloupe, แล้วแต่ว่าในตู้เย็นมีอะไรให้กิน แต่ขอบอกว่ากินเยอะมากๆ จานใหญ่ๆเลย

ตอนเที่ยง นมหนึ่งกล่อง หรือบางที บ้อนข้าวได้ ถ้วยเล็กๆ หรือน้ำซุปหนึ่งถ้วย


ตอนบ่ายสาม ตื่นนอนมาแล้ว เริ่มหิว ต้องให้มื้อหนักเลย แต่ก็ไม่กินข้าวอยู่ดี ม่าม้าก็เลยเปลื่ยนเป็น มันฝรั่งต้มใส่นมแล้วก็ชีส บางทีใส่เนื้อปลา บางทีใส่ไข่ต้มแล้วใส่มายองเนสนิดหนึ่งกิืนกับ แครอท ถั่วหวาน หรือ บล๊อกเคอรี่ต้ม แล้วก็ขาดไม่ได้เลย ก็มะเขือเทศเชอรี่กินสดๆเลย ต้องซื้อติดตู้เย็นไว้เลย


อีกเมนูที่จีโน่ชอบก็คือ อโวคาโด ใส่ใข่ต้มแล้วก็กินกับ สปาเก็ตตี้ราดซอสไก่สับนุ่มๆ กินได้จานใหญ่ๆเลย

มื้อเย็นรอให้ป๋ากลับมาแล้วกิน ปลาทอดกระเที่ยม หรือไม่ก็ไก่ทอด กรอบๆ แต่ไม่กินกับข้าวนะ กินกับอย่างเดียว บวกกับผลไม้อีกเล็กน้อย

มื้อดึกก็นมอีก หนึ่งกล่อง แล้วก็แปรงฟันเข้านอน อย่างมีความสุข :)))))










Dineyland & Paris Trip

ช่วงนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ก็เลยคิดกันว่าจะไปเที่ยวไหนดี ไปแบบขับรถเที่ยว ดีกว่า ขนของไปได้เยอะ เพราะเริ่มหนาวแล้ว ถ้าเที่ยวแบบนั่งเครื่องต้องไม่สะดวกเท่าไหร่

ทริปแรกของ Autumn ก็เลยเลือกที่จีโน่น่าจะสนุก ก็เลยมาเป็น Disneyland Paris เราออกจากบ้านประมาณ 8 โมงครึ่งของวันเสาร์ จริงๆแล้วจากบ้านขับไปปารีสก็ประมาณ 5 ชั่วโมงเอง แต่วันนั้นเป็นวันแรกของโรงเรียนที่ในยุโรปหยุดประมาณหนึ่งอาทิตย์ โอว.....กว่าจะถึงปารีสก็ขับไปประมาณ 8 ชั่วโมงได้ แล้วไปพักเป็น Apartment ที่สามารถทำครัวได้ แถว Disneyland เพื่อจะได้เที่ยว Disneyland ได้ในวันอาทิตย์ ค่าตั๋วเข้า Disney เด็กไม่เสีย แต่ผู้ใหญ่นี่สิ คนละประมาณเกือบสองพันห้า สองคนห้าพันบาท แพงมากๆๆ แต่เพื่อจีโน่ ก็เอาก็เอา ป๋านู๋ทุ่มไม่อั้น

เช้าวันอาทิตย์ ไปถึง Disney ตอน 10 โมงเช้า รถเยอะมาก แล้วที่สำคัญ หนาวมาก จำได้ว่าประมาณ 4 องศา จีโน่แต่งตัวเป็นหมีแพนด้า ใส่ประมาณ 4 ชั้นได้ แถมแม่หนูต้องไปซื้อผ้าหม่ที่สำหรับใส่รถเข็นไว้อีกหนึ่งผืน ต้องบอกว่า หนาวและทรมานมาก เพราะต้องอยู่กลางแจ้งทั้งวัน แล้วคนเยอะมาก จะเล่นเครื่องเล่นอะไรต้องรอคิวนานกว่าครึ่งชั่วโมง โอ้ย.... ช่างทรมานจริงๆ คุณลูกสนุก แต่คุณพ่อและคุณแม่เหนื่อยและหนาวแทบขาดใจ

รุ่งขึ้นวันจันทร์กะว่าจะกลับบ้านเลยเพราะเหนื่อยมากๆ แต่ก็มาแล้วก็ขับไปดูหอไิอเฟลหน่อยละกัน เดี๋ยวมาไม่ถึงปารีส จากที่พักขับไปในเมืองประมาณเกือบสี่สิบนาทีได้ ไปหาที่จอดรถในห้างในเมือง ขับรถในเมืองปารีสอาจจะไม่ยากถ้าผ่านการขับรถในกรุงเทพมาแล้ว แต่ที่ยากกว่าก็คือมารยาท ต้องขอยกนิ้วในเลยเพราะคนที่นี่ขับรถมารยาทยอดแย่จริงๆ นึกจะจอดก็จอด จะปาดก็ปาด สุดยอดจริงๆ ต้องขอยกนิ้วให้ป๋าจีโน่ที่สามารถผ่านการขับรถในเมืองที่แย่ๆ แบบนี้มาได้

ภาพในจินตนาการว่าปารีสนี่น่าเที่ยว สวย น่ามามาก ต้องขอบอกว่าไม่จริงเลย ต้องบอกว่า สกปรก เหม็นฉี่มาก ยิ่งกว่าเมืองจีนอีก ที่จอดรถ แทบจะอาเจียรไม่อยากจะลงจากรถเลยเพราะว่าเหม็นฉี่ เพราะคนที่นี่เข้าห้องน้ำต้องเสียเงินก็เลยฉี่ในที่จอดรถซะเลย แล้วรถไฟใต้ดินก็สกปรกมากๆถึงมากที่สุด ตอนไปเที่ยวกรีก ยังดีกว่านี้ตั้งเยอะ แล้วก็ไม่เหมาะที่จะพาเด็กเล็กไปเที่ยวที่นี่ด้วย เพราะว่ารถไฟไม่มีทางออกของรถเข็น ไม่มีลิพท์ ไม่มีบรรไดเลื่อน ต้องยกรถเข็นขึ้นบรรไดเอาเอง แล้วลองคิดดู ถ้าเป็นคนพิการหล่ะก็ไม่มีสิทธิ์ไปเที่ยวแน่ๆ


สรุปทริปนี้เป็นทริปทรหด ของครอบครัวจริงๆ ขากลับจีโน่ตัวร้อนมาก ป๋าหนูขับรถซิ่งมากขากลับไม่ถึงห้าชั่วโมงถึงบ้านเลย โชคดีไม่มีใบสั่งตามมาที่หลัง รอดไป ป่วยตัวร้อนกันทั้งบ้าน สรุปเป็นอาทิตย์ที่เหนื่อยจริงๆ


ใครอยากเจอประสบการณ์แบบนี้ ก็มาลองดูได้ :))))))

Wednesday, September 23, 2009

จีโน่ไปโรงเรียน ไม่ร้องไห้แ้ล้วคร๊าบ

ระหว่างทางนั่งรถไปโรงเรียน จีโน่ร่าเริงมาก ร้องเพลงตลอดทางเพราะไม่รู้ว่าโรงเรียนเป็นยังงัย นึกว่าไปเที่ยว ยังไม่รู้ว่าจะโดนทิ้ง.....ฮ่าาาา


จีโน่เริ่มไปโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เรียนอาทิตย์ละ 2 วัน วันอังคาร กับ วันพุธ จริงๆแล้วอยากให้เรียนมากกว่านี้อีกวัน แต่ว่าไม่มีตังส่งแล้วลูก...... เรียนแค่นี้ก็พอ นี่ก็ปาเข้าไปเดือนละหลายหมื่นแล้ว เอาแึ่ค่ให้มีเพื่อน แล้วก็ฝึกภาษาให้ได้ก็ okay แล้วววว



บรรยากาศโรงเรียน ที่สนามเด็กเล่น วันแรกไป หนาว.....ฝนตก แล้วก็ไม่มีแดดทั้งวันเลย

จีโน่เริ่มกลัวแล้วไม่ยอมลงเดินจะให้อุ้มอย่างเดียวเลยไม่มีรูปมาให้ดู ป๋าจีโน่ก็ไม่กล้ามาส่งเพราะกลัวว่าจะเห็นลูกร้องไห้แล้วจะสงสาร จะร้องไห้ไปกะจีโน่ด้วย ก็เลยส่งม่าม้าใจร้าย มาแทน ......พอจีโน่เห็นครูกับเพื่อนคนแปลกหน้า แล้วก็เริ่มร้องไห้ จะให้ม่าม้าอยู่ด้วย ม่าม้าก็บอกว่าพาจีโน่มาเล่น แป๊บเดียว เดี๋ยวก็มารับแล้ว จีโน่ก็เริ่มแปลงร่างเป็นลิงในทันที กอดม่าม้าแน่นมาก ครูต้องมาแกะนิ้วทีละนิ้ว แกะขาทีละข้าง ถึงจะดึงจีโน่ไปได้ แล้วม่าม้าก็เริ่มเป็นแม่ใจร้าย ส่งยิ้มหวานขณะที่ลูกชายร้องไห้แบบจะขาดใจ บอกกับจีโน่ว่าเดี๋ยวม่าม้ามารับนะครับ บ้ายบาย .....

หลังจากนั้นก็ยังร้องไห้มาเรื่อยๆ แต่น้อยลงทุกครั้ง จนมาเมื่ออาทิตย์นี้ ไปส่งจีโน่ที่โรงเรียน จีโน่เดินไปเรียนเอง แล้วเดินเข้าไปในห้อง say good morning กับครู แล้วก็หันมาบ้ายบายม่าม้า ไม่มีร้องไห้ซักกะแอะ!!!! อ้าวววว :O ทำมัยเร็วจังลูก!!!ม่าม้าตั้งตัวไม่ทัน ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ เริ่มไม่สนใจม่าม้าแล้ว จะไปเล่นกับเพื่อนแทน ......อีกหน่อยจะสนใจม่าม้าอะเปล่าเนี่ย...........

Thursday, September 3, 2009

มากินข้าวเย็นกับจีโน่ที่บ้านมั้ยคร๊าบ

มาอยู่ไกลบ้าน อากง อาม่า ตา กะ ยาย จีโน่ไม่ต้องเป็นห่วง ดูอาหารที่จีโน่กินประจำวันได้เลยคร๊าบ

มากินด้วยกันมั้ยคร๊าบ

โตขึ้นหนูจะเป็นอะไรดี

จีโน่ชอบร้องเพลงมาก ร้องเพลงได้ทั้งวัน ร้องแต่เพลงเดิมๆ ร้องจนป๋ากะม้ากะว่าจะพาไป open market แล้วร้องเพลงเปิดหมวก หารายได้พิเศษน่าจะดี .......

แต่ตอนนี้จีโน่เริ่มชอบเล่นดนตรีตามพี่พีม เพื่อนบ้านที่อยู่ที่นี่ด้วยกัน เล่นตามทุกอย่าง พี่เล่นอะไร น้องเอาด้วย พี่กด น้องก็กดด้วย พี่มองโน๊ต น้องก็ทำตาม ม่าม้าก็อยากให้จีโน่เล่นเบียโนเก่งเหมือนพี่พีม หรือร้องเพลงเก่งเหมือนพี่บี้เดอะสตาร์ก็ได้ ....ม่าม้าจีโน่หวังสูงงงงแฮ่ะ....ะะะะ



Monday, August 24, 2009

มาเล่นน้ำกับจีโน่มั้ยคร๊าบ

เมื่อหลายวันก่อนที่นี่ร้อนมากๆ 20 กว่าองศาแน่ะ ก็เลยพาจีโน่ไปเที่ยวทะเลสาบแถวบ้านอีกเหมือนกัน กะว่าไปเดินเล่นเฉยๆ แล้วค่อยกลับบ้าน ตอนที่ไปถึงเนี่ยก็ประมาณหกโมงกว่าแล้ว จีโน่ก็มาเลยคร๊าบท่าน

จีโน่....."ม่าม้าจีโน่อยากเล่นทราย เล่นทรายกับพี่หล้า (พี่หล้าเป็นแม่บ้านของเพื่อนคนไทยที่อยู่ที่นี่ด้วยกัน)"
ม่าม้า...." ได้ลูก แต่อย่าเล่นจนเลอะนะ เพราะม่าม้าไม่ได้เอาชุดมาให้จีโน่"
จีโน่......"เย้ พี่หล้าไปเล่นกัน"

นานๆทีจะมีโอกาสได้มีคนมาช่วยเล่นกะจีโน่ แล้วป๋ากะม้าก็ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่ไม่นาน ไม่นานจริงๆคร๊าบท่าน ก็มีเสียงลอยมาว่า

จีโน่....."ม่าม้า จีโน่จะเล่นน้ำ เล่นน้ำกับพี่หล้า"
ม่าม้า...." เล่นได้งัยลูก ไม่มีชุดมาเปลี่ยน ชุดว่ายน้ำก็ไม่ได้เอามา"
จีโน่......" จีโน่จะถอดเสื้อ เอากางเกงไว้กับม่าม้า ใส่ตุ้งเล่นน้ำได้......."
และแล้วไม่ต้องรอให้ม่าม้าพูดอะไรอีก เธอจัดการถอดเสื้อเอง ถอดกางเกงเองแล้ววิ่งตื้อลงน้ำไปเลย

ดูสภาพเจ้าตัวยุ่งซะก่อน สนุกจริงๆ

ไม่อายเค้าเลย เล่นจนเกืิอบสองทุ่มแน่ะ กว่าจะเอาขึ้นจากน้ำได้ .....วันนั้นต้องไปอาบน้ำบ้านพี่หล้า แล้วขอผ้าเช็ดตัวเค้ามาห่อตัวนั่งรถกลับบ้าน เฮ้อ เจ้าตัวยุ่งจริงๆ ......

พายใส้ไก่

อยู่ที่นี่เริ่มเบื่ออาหาร ไม่รู้จะกินอะไรดี ทำอะไรก็วนไปวนมา เพราะต้องทำกับข้าวทุกวัน แล้วตอนนี้คุณชายน้อยจีโน่เริ่มเป็นฝรั่งคร๊าบท่าน ข้าวไม่กิน จะกินแต่ขนมปังอย่างเดียว ม่าม้าก็ไม่รู้ทำงัย บางทีกินขนมปังเกือบทุกมื้อเลย อาหารไทยทำให้ทีไรก็ไม่กิน หรืออย่างดีก็ 3-5 คำ ก็เลยต้องหาอะไรแปลกๆมาให้กินบ้าง จะกินขนมปังแฮมชีสทุกมื้อก็ไม่ไหวเป็นแน่ ว่าแล้วม่าม้าก็มาได้สูตรการทำพายไส้ไก่ ไส้เดียวกับกะหรี่ปั๊บบ้านเรานั่นแหละ

วิธีทำดังนี้ : สูตรของแม่ปูจาก Bloggang
แป้งพาย(puff pastry) ๕๐๐ กรัม
เนื้อไก่บด ๓๕๐ กรัม
มันฝรั่งหั่นเล็กๆ ๔๕๐ กรัม
หอมหัวใหญ่ ๑ หัว
น้ำตาลทราย ๔-๕ ช้อนโต๊ะ
ผงกะหรี่ ๒ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว ๓ ช้อนโต๊ะ
เกลือ ๑/๒ ช้อนชา
พริกไทย ๑/๒ ช้อนชา
น้ำมันสำหรับผัด น้ำมันมะกอก ๒ ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ ๑ ฟอง (สำหรับทาหน้าตอนอบ)

ขอบอกว่าอร่อยจริงๆ ทำไปประมาณเกือบห้ารอบแล้ว ให้ป๋าไปทานกลางวันกับเพื่อนที่ทำงาน ให้เพื่อนบ้านคนไทยด้วยกันไปกินตอนเช้า แล้วก็เป็นอาหารเช้า กลางวันของโปรดของจีโน่ไปเลย


ลองซักคำมั้ยคร๊าบ

กิจกรรมวันว่างของคุณพ่อกะคุณลูก

ปกติถ้าอาทิตย์ไหนไม่มีโปรแกรมการท่องเที่ยว วันอาทิตย์จะพาจีโน่มาที่ Park ใกล้ๆกับบ้าน แต่ต้องขับรถไปประมาณห้านาที แต่ถ้าเดินก็ 30 นาทีได้ เพราะแม่จีโน่ได้ลองมาแล้ว....เหนื่อยไม่ใช่เล่น สวนเด็กเล่นที่นี่จะเป็นที่ดูดี ไฮโซหน่อย มีของเล่นเยอะมาก แล้วก็มีที่ให้พ่อกับแม่นั่งกินกาแฟระหว่างรอคุณลูกๆเล่นอยู่ แล้วก็แยกไม่ให้เอาหมามาข้างใน มีรั้วกั้นมิดชิด วันแรกที่ไป ไปแต่เช้ามาก ประมาณ 9 โมงครึ่ง แล้วก็เอาขนมปังติดไปด้วย เผื่อเจ้าจีโน่จะหิว เพราะเล่นเพลิน แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ มาเป็นคนแรก แต่กลับเป็นคนสุดท้าย ไม่ยอมไปนอนกลางวัน ไม่ยอมกินข้าว จะเล่นอย่างเดียว แล้วจะให้กลับก็ร้องซะลั่นสวนเลย ป๋ากะม้าอายเค้าจริงๆ เข็ด ไม่ค่อยกล้าพาไปแล้ว

Happy Boy มากๆ



ได้เอาทรายมาสาดหน้าป๋ากะม้า สนุกไม่ใช่เล่น


อันนี้ออกแนวกลัวๆ ดูหน้าผมดิ จ๋อยเลย


อันนี้ม่าม้าขอบาย ถ่ายรูปอย่างเดียว อย่ามาชวนไปเล่นเด็ดขาด มันสูงงงง


Gino Love to play jigsaw

มีของเล่นเต็มบ้าน แต่ชอบเล่นอยู่ไม่กี่อย่าง อย่างที่ชอบแล้วเล่นได้ไม่เบื่อก็คือเจ้า jigsaw นี่แหละคร๊าบผม เล่นเอง ทำเอง อย่าได้เข้าไปช่วยเล่นด้วยเลย เพราะจะมีประโยคตามมาว่า จีโน่จะทำเอง ตอนนี้เล่นได้ประมาณ 20 ชิ้นแล้ว เห็นพ่อจีโน่กะว่าจะซื้อประมาณ 100 ชิ้นมาให้ต่อดู จะทำได้อะเปล่า 5555

Gino can play jigsaw for 20 pics leaw krubb :)

Friday, July 31, 2009

Gino in Dolfinarium, Netherlands

วันนี้จีโน่จะพามาเที่ยว Dolfinarium ทีีแถวๆบ้านกันคร๊าบ ขับรถจากบ้านก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ประมาณชั่วโมงครึ่ง ไปวันอาทิตย์คนเยอะเหมือนกัน เพราะอากาศดี ฝนไม่ตกแล้วก็ไม่หนาวด้วย ....ดีจัง ที่นี่จะมีการแสดงโชว์ของปลาโลมา

ปลาโลมาแสดงได้น่ารักมาก แต่มาเที่ยวแบบนี้เค้าพูดกันแต่ภาษาดัตช์ เนื่องจากเป็นที่เที่ยวของคนที่นี่ ม้ากะป๋า ก็ฟังไม่ออกเลย เลยดูได้แต่ปลาโลมาแดนซ์อย่างเดียว ฟังคำบรรยายไม่รู้เรื่องเลยซักกะอย่าง .......

ดูหน้าจีโน่ซิ ตั้งใจดูมากคร๊าบ

แล้วนี่ก็เป็นการแสดงอีกชุดหนึ่งที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด มันคือสิงโตทะเล ตัวใหญ่มากคร๊าบบ ..แต่น่ารักมาก ถึงว่าเค้าถึงพูดกันว่า "อ้วนแต่น่ารัก"ก็น่ารักจริงๆนี่นาาา...เวลาพุงกระเพื่อม มันฮาาาา มากๆ
อันนี้เป็นการแสดงโชว์ของแมวน้ำ ขอบอกฉลาดมากๆ สนุกดี เหมาะกับเด็กๆ มาก


ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ ป่าป้าจะเสียกะตังแล้ว เพราะจีโน่เล่นม้าหมุนไม่ยอมลงเลย นั่งไปสี่เที่ยว เที่ยวละ 1 ยูโร สี่เที่ยวก็ปาเข้าไปเกือบสองร้อยบาท....เล่นม้าหมุนที่เมืองไทยได้เป็นสิบรอบเลย ลงมาได้แล้วววว

กว่าจะลงได้ก็ต้องเสียเงินไปซื้อเจ้ากังหันหมุนมาให้เนี่ยแหละ ป๋ากะม้าเริ่มคิดกันแล้วว่าคราวหน้าจะมาอีกหรือเปล่า.... : ))))






Gino in Belgium

จีโน่อยู่บ้านทุกวันเลย ไม่ยอมไปไหน ม่าม้าจีโน่ก็เบื่อ พอดีมีเพื่อนมาชวนขับรถไปเที่ยวเบลเยี่ยมกัน เพราะว่าไม่ไกลจากบ้านเท่้าไหร่ ขับรถไปประมาณ 2 ชั่งโมงครึ่งก็ถึงแล้ว วันนี้เราจะไปเีีี่ที่ยวกัน 2 เมือง

เมืองแรกคือเมือง Brugge คนเมืองนี้จะพูดภาษาดัตช์กัน (เป็นความรู้นิดหน่อย ประเทศเบลเยี่ยมจะใช้ 2 ภาษาหลักคือ ดัตช์ แล้วก็ ฝรั่งเศส ) เมือง Brugge นี้เป็นเมืองที่สวยงามมาก ศาลาว่าการของเมืองก็สวยมาก ได้ถ่ายรูปมานิดหน่อยเนื่องจากจีโน่แย่งกล้องจากม่าม้าไปเลย


ดูหน้าจีโน่ซิ ไม่ยอมให้ม่าม้าถ่ายรูปเลย โตขึ้นจีโน่จะเป็นตากล้องแล้วคร๊าบ
แล้วก็ได้ไป shopping กันที่เมืองนี้ ขอบอกว่าร้านสวยมาก แล้วก็น่าช๊อบมากกกก เพราะว่ามันติดป้าย SALE สีแดงตัวใหญ่ ม่าม้าตาลายไปหมด ......

ซักบ่ายแก่ๆ ก็ขับรถไปเที่ยว Brussel เป็นเมืองที่ 2 ของทริปนี้ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของเบลเยี่ยม ขับจาก Brugge ไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว

สัญลักษณ์ของเมือง มีจัตรัสกลางเมืองที่มีชื่อเรียกว่า "กรองด์ปลาส" เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่กล่าวว่าสวยงามที่สุดของยุโรป มีหอคอย แล้วก็มี meseum ของเมือง แล้วก็มีหนูน้อยที่ยืนฉี่ ชื่อหนูน้อย Manneken Pis เป็นหนูน้อยที่มีชื่อเสียงมาก มีเรื่องเล่าว่านานมาแล้ว หนูน้อยได้พลัดหลงหายจากพ่อแม่ไป แล้วพ่อแม่ก็เลยตั้งจิตอธิษฐานว่าให้ได้หนูน้อยกลับมา เขาจะสร้างรูปจำลองขึ้นบริเวณที่พบ แล้วก็ได้พบตัวหนูน้อยนี้กำลังยืนฉี่อยู่ก็เลยสร้างรูปปั้นนี้ขึ้นมา แล้วต่อมาในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ทหารฝรั่งเศสคนหนึ่งก็ได้มาขโมยรูปปั้นนี้ไป ทำให้ชาวเมืองโกรธแค้นพวกฝรั่งเศสมาก เมื่อสุดท้ายตามได้รูปปั้นนี้กลับมา พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 จึงได้ส่งเสื้อผ้ามาให้ใส่เพื่อเป็นการขอโทษ นับแต่นั้นมาหนูน้อยก็มีเสื้อมาจากทั้วทุกสารทิศ

วันที่จีโน่ไปไม่ใช่วันที่เค้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ หนูน้อยนี้ ก็เลยไม่มีโอกาสได้เห็นเลย จีโน่ชอบมาก ยืนดูไม่ยอมไปไหนเลย แล้วก็ร้องว่าเค้ายืนโป๊ด้วย!!!

อีกที่หนึ่งที่สำคัญก็คือ รูปปั้นที่อยู่ใกล้ๆกับจตุรัสกลางเมืองที่ทุกคนมาเพื่อจะมาขอพร โดยเอามือลูบตั้งแต่หัวไปจรดปลายเท้า ระหว่างเอามือลูบก็ขอพรให้ได้........ สมดั่งใจปารถนา คร๊าบบบ ไม่รู้ว่าม่าม้าจีโน่ขออะไรน้าาา เสร็จจากเอามือลูบที่รูปปั้นแล้วก็ ต้องไปลูบที่กบตัวเล็กๆข้างใต้รูปปั้นเพราะเชื่อว่าลูบกบตัวนี้แล้วจะร่ำรวย อะไรประมาณเนี้ย ม่าม้าจีโน่ก็เอาทุกรูปแบบ :PP ขอบอกทุกคนลูบกันจนเป็นมันวาววว ไปหมดเลย


ใช้เวลาเที่ยวไม่นานเพราะมาถึงก็เกือบห้าโมงเย็นแล้ว ต้องรีบกลับบ้านหน่อยเพราะป่าป้าจีโน่รออยู่ที่บ้าน แล้วจีโน่ใกล้จะหิวข้าวเย็นแล้ว กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มเป็นแน่ ว่าแ้ล้วม่าม้าก็ตรงดิ่งไปหาร้าน chocolate แล้วก็ วาฟเฟิล ราดด้วยกล้วยหอมกับสตอเบอรี่มาให้จีโน่ได้หม่ำก่อน อาร่อยยยมาก คร๊าบ


หลังจากหม่ำเสร็จแล้ว จีโน่ก็ซ่าาาา แล้วคร๊าบ มาดูลีลาของผมกัน เท่มั้ยคร๊าบบบ เอาไว้มาเที่ยวกับจีโน่อีกนะคร๊าบ





Gino in Greece

Blog นี้ถูกดองเค็มไว้นานแล้ว ไม่ได้ up ซะกะที :)

วันนี้ม่าม้าจีโน่มีเวลาจะมาเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวที่ประเทศกรีซ หรือเรียกอย่างไทยว่า กรีก นั่นเอง ที่นี่เป็น Trip แรกที่ได้พาจีโน่ไปเที่ยวยุโรป นอกเหนือจากประเทศเนเธอร์แลนด์

ทริปนี้เป็นเวลา 6 วัน เราเลือกเดินทางโดย Swiss Air เพราะว่าตั๋วถูกที่สุด ออกจาก Schiphol Airport กันตอนเช้าแล้วก็แวะต่อเครื่องที่ Zurich เราก็เลยถือโอกาศออกไปช๊อบที่ Zurich ครึ่งวันแล้วนั่งรถกลับมาต่อเครื่องไป Athens กันอีกที ไปถึง Athens ก็ประมาณ 5 ทุ่มกว่า เหนื่อยดีเหมือนกัน แต่จีโน่อึดมาก สนุก ร้องเพลงตลอดแล้วก็ชอบขึ้นเครื่องบินไม่ร้องไห้เลย :)

โปรแกรมทัวร์วันรุ่งขึ้นก็ไปเที่ยวที่ Athens ไปเยี่ยมชมอาณาจักรโรมันแหล่งอารยธรรมกรีกโบราณเป็นพันๆปี

ประเทศกรีซ (Greece) มีชื่อเรียกเป็นทางการว่าสาธารณรัฐเฮลเลนิก (Hellenic Republic) อยู่ปลายคาบสมุทรบอลข่าน เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของโลก มีทั้งนักปรัชญาเมธี นักคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก การได้ไปเยือนประเทศกรีซจึงเหมือนเป็นการย้อนรอยอดีตที่ยิ่งใหญ่เมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว จุดเริ่มต้นของการเที่ยวประเทศกรีซก็ต้องเป็นเมืองหลวงคือกรุงเอเธนส์ (Athens) เมื่อไปถึงกรุงเอเธนส์ ทุกคนก็คงอยากเห็นวิหารพาร์เธนอน (Parthenon) อันยิ่งใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาอะโครโปลิส (Acropolis) ใจกลางเมือง ใครอยากรู้เรื่องราว ประวัติของอะโครโปลิส ก็ใช้คุณ กูเกิล นะคร๊าบ จีโน่จะเล่าเฉพาะเรื่อง กิน เรื่อง เที่ยวอย่างเดียว :P

ช่วงวันที่ไปเที่ยว อากาศร้อนมากๆ แล้วก็คนเยอะเพราะเริ่มฤดูกาลของคนยุโรป ที่จะออกมาเที่ยวกันตอนหน้าร้อน


จีโน่ร้อนมากๆคร๊าบ อ้าว!!!ใคร หล่อ ยกมือขึ้น ......... แล้วช่วงบ่ายก็มาเที่ยวที่ Museum เพื่อมาดูเจ้ารูปปั้นต่างๆ ที่เห็นในรูป อ้อ!! เป็น Museum ที่อนุญาติให้ถ่ายรูปได้ด้วย ดีจัง....

แล้วคนถ่ายรูปก็คือผมเองคร๊าบ

วันรุ่งขึ้นก็ตื่นแต่เช้ามืดมานั่งเรือไปเที่ยวเกาะ Santorini กัน นั่งเรือประมาณเกือบ 4 ชั่วโมง ก็มาถึงแล้วววว จีโน่พักที่โรงแรมในเมือง Fira เป็นเหมือนเมืองหลวงของเกาะ เป็นเมืองใหญ่สุด แต่ในช่วงเย็นจะต้องนั่งรถเมล์มาดูพระอาทิตย์ตกดินอีกเมืองหนึ่งชื่อว่า Oia ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เห็นพระอาทิตย์ตกน้ำแล้วสวยที่สุด โรแมนติกที่สุดอีกเมืองหนึ่ง แนะนำว่าคู่รักทั้งหลาย อยากโรแมนติกก็มาดูพระอาทิตย์ตกน้ำที่นี่ :)

นี่รูปจากเมือง Fira คร๊าบ

แล้วนี่ก็พระอาทิตย์กำลังจะตกน้ำที่ Oia

แล้วก็หมดทริปที่ Santorini วันรุ่งขึ้นเราอยากไปว่ายน้ำกันบ้าน เพราะที่ Santorini ได้แต่ดูวิว ก็เลยมาเที่ยวอีกเกาะหนึ่งชื่อ Mykonos คร๊าบ เกาะนี้มีหาดทราย แล้วก็สวยมากเหมือนกัน จีโน่ก็ตื่นเช้าแล้วก็มานั่งเรือไปที่เกาะ Mykonos นั่งเรือจาก Santorini ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วววว

สวยมั้ยคร๊าบ มาดูลีลาการเล่นน้ำของจีโน่กัน สนุกมากเลย มาอยู่ยุโรปตั้งหลายเดือนแล้วเพิ่งจะได้ว่ายน้ำก็ครั้งนี้แหละ อยู่บ้านว่ายไม่ได้ มันหนาววววว แค่จะอาบน้ำก็ยังย๊ากกก เลย


วันสุดท้ายนั่งเรือกลับไปที่ Athens แล้วรุ่งขึ้้นอีกวันก็ไปช๊อบบบ กระจายที่ย่านเรียกว่า "พลาก้า" (Plaka) อยู่ติดกันกับอะโครโปลิสนั่นแหล่ะ แล้วก็นั่งเครื่องกลับบ้านน แล้วคร๊่าบ

บทสรุปของทริปนี้ก็สนุกดี อาหารก็อร่อยมาก คนที่ติดอาหารไทย มาเที่ยวสามารถทานได้สบาย แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศแบบอยู่เมืองไทย ก็ติดพริกน้ำปลามาด้วยละก็ แซ่บบบบ แน่

ใครอยากมาเที่ยวก็มาเที่ยวเองได้ ไม่ต้องง้อทัวร์ ขอให้พูดภาษาอังกฤษได้ก็สบายแล้ว แล้วก็เดินทางสะดวก จากสนามบินก็มีรถไฟมาถึงในเมืองแล้วก็นั่งรถไฟนี่แหละเที่ยวได้รอบเมืองแล้ว จะไปขึ้นเรือก็นั่งรถไฟไปท่าเรือเลย เดินหน่อยแต่ก็ออกกำลังดี แต่ขอบอก ค่า taxi แพงมาก ไม่ควรนั่งเลยถ้าไม่จำเป็น :)))

เอาไว้คราวหน้าจีโน่จะพาไปเที่ยวอีกนะคร๊าบบบ


อาหารพื้นๆประจำบ้าน

ชวนมากินข้าวบ้านจีโน่กัน นี่เป็นอาหารที่ม่าม้าทำให้ป่าป๋าหม่ำประจำวัน เป็นอาหารที่่ทำให้หายคิดถึงเมืิองไทยไปได้บ้าง ใครจะมาหม่ำกะจีโน่บ้างคร๊าบ


วันนี้มีไข่เจียวโหรพา ไก่กระเทียมพริกไทย ข้าวเหนียวของโปรดจีโน่ แล้วก็ปอเปี้ยะญวนทอด อาร่อยยยมากคร๊าบ
ส่วนอาหารวันนี้ก็หรูขึ้นมานึดหนึ่ง มีก้ามปูนึ่ง กุ้งอบเกลือกับน้ำจิ้มซีฟูด แกงเลียงผักรวม(มีอะไรเหลือในตู้ม่าม้าก็เอามาใส่ให้หมด) แล้วก็แกงเขียวหวานไก่จากซองตราน้ำใจ อ๋อที่จีโน่กินได้ก็คือก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัด น่ากินมั้ยคร๊าบ

ว่างๆ อย่าลืมมากินข้าวกะจีโน่นะคร๊าบ

Wednesday, July 29, 2009

Kiss หมาดีกว่า

จีโน่เอารูปตอนที่ไปสวนสาธารณะมาฝากคร๊าบ เป็นสวนที่ Amsterdam สนุกมากคร๊าบ วิ่งๆ เก็บกิ่งไม้ เก็บใบไม้ แล้วก็ถามว่านี่คืออะไร นี่คืออะไร ตลอดจนม่าม้ากะป่าป๋าเริ่มขี้เกียจตอบคำถามแล้ววว.......


นี่คืออะไรครับ แล้วโน่นอะไรคร๊าบ ม่าม้ามาดู นี่คืออะไร.... พูดอย่างเดียวตลอดวันเลย

แล้วนี่ก็เป็นรูปปั้นที่ป๋าหนูจะจดจำไปตลอดกาล เพราะว่าจีโน่กำลังเล่นสนุกอยู่ ปีน แล้วก็ปีน ป๋าจีโน่ก็เรียกให้จีโน่มาหาแล้วก็บอกให้จีโน่ Kiss ป๋า แต่จีโน่นิ่ง.....เงียบไปแป๊บหนึีงแล้วก็พูดออกมาว่า "จีโน่ Kiss หมาดีกว่า" ฮ่า ....ฮ่า..... ขำมาก ม่าม้าขำมากๆๆๆๆๆ แต่ป๋าจีโน่แอบไปร้องไห้แงงง......... พูดออกมาได้งัยเนี่ย Kiss หมาดีกว่า ......







Party คร๊าบ party

หลังจากจัดบ้านเสร็จ ป๋ากะจัดแจงชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน ใ้ห้ม่าม้าเป็นแม่ครัวโชว์อาหารไทย 1st party เป็นเพื่อนคนไทยที่ทำงานที่เดียวกันกับป๋าจีโน่ มีป้านา คุณลุงพัทธ์ แล้วก็ป้าจ๋า แล้วแม่ครัวก็ไม่ชินกับการใช้ครัวของที่นี่ หม้อกับกะทะที่เอามาใช้ไม่ได้เลย เพราะว่าเตาของที่นี่เป็นเตาไฟฟ้าอีกแบบหนึ่งต้องใช้หม้อกับกะทะ ของเจ้าของบ้านที่เค้ามีเตรียมไว้ให้เท่านั้น ขอบอกมันหนักมากๆ

เมนูของวันนี้มี ไก่ผัดเม็ดมะม่วง น้ำพริกกะปิ ปลาทอด แล้วก็เมนูที่ม่าม้ามั่นใจว่าอร่อยตลอดกาล ซี่โครงหมูอบสัปปะรด แล้วป้าจ๋าเอาปูม้านึีงมาแจมด้วย ปูสดที่นี่หาทานยากมีก้ามปูขายแต่ปูเป็นตัวไม่ค่อยเห็น ถ้าอยากกินต้องไปซื้อที่ร้านจีนแบบที่แช่แข็งไว้ แต่เนื้อมันไม่ค่อยสดเหมื่อนที่เมืองไทย แต่ก็ช่วยให้หายอยากได้เยอะทีเดียว แต่กินแล้วยิ่งคิดถึงปูม้านึ่งที่ตลาดบางพระ โอ้ย!!!ใครมาช่วยเอามาฝากซัก 5 กก.เลยนะ


แล้วก็มา 2nd party ป๋าจีโน่ก็ชวนเพื่อนที่แผนกมากินข้าวที่บ้านอีกแล้ว แม่ครัวคนเดิมแต่เริ่มพัฒนาฝีมือมากขึ้น เพื่อนป๋าก็ Interมาก มี คนดัชท์ที่ใส่เสื้อสีขาว แล้วก็อิตาลี่ที่ใส่เสื้อสีดำ แล้วก็ผู้ชายที่อุ้มจีโน่เนี่ยเป็นคน มอริเชียส (Republic of Mauritius) ม่าม้าจีโน่เตรียมตัวมากๆเพราะว่าเค้าอยากกินต้มยำกุ้งกัน แต่อาหารทุกอย่างต้องไม่เผ็ดเพราะเค้าทานเผ็ดไม่ได้ แล้วจะทำอะไรดีหละ แล้วเจ้าต้มยำกุ้งก็ยากมาก เพราะม่าม้าจีโน่เนี่ยทำไม่เคยอร่อยเลย ทำงัยดีหล่ะ ม่าม้าก็เลยเข้า youtube หาวิธีการทำอย่างละเอียด แล้วก็สำเร็จ ทุกคนกินไม่เหลือเลยสักกะหยดเดียว ฮ่า ฮ่า เมนูวันนี้ก็มีคล้ายๆเดิม เริ่มจาก ต้มยำกุ้งเป็นซุป ไก่ผัดเม็ดมะม่วงอีกแ้ล้วเพราะฝรั่งชอบ แต่คนไทยเริ่มเบื่อ ปลาทอดกับส้มตำแอปเปิ้ลแบบไม่ใส่พริก กุ้งสิงคโปร์(กุ้งทอดกรอบกับผงซีเรียลที่ซื้อมาจากสิงคโปร์) แล้วก็ซี่โครงหมูอบสัปปะรดอีกเหมือนเคย ตบท้ายด้วยผลไม้จานใหญ่ๆ ขอบอก ทุกคนชมว่าอร่อยมากๆ คร๊าบ จีโน่ก็สนุกมาก หัวเราะตลอดเวลา คุยกับทุกคนรู้เรื่องหมด เค้าพูดภาษาอังกฤษ แต่จีโน่พูดไทย.......ฮาาาา



Tuesday, July 7, 2009

จีโน่ย้ายมาอยู่บ้านใหม่แล้วคร๊าบ

ไม่ได้ up blog ซะนาน หายไปเป็นเดือน เดี๋ยวจะทยอย up นะคร๊าบ

ตอนนี้จีโน่ได้ย้ายจาก Service Apartment มาอยู่บ้านใหม่แล้วคร๊าบ ได้ฤกษ์สะดวก บวกกับให้พระฤกษ์ให้เล็กน้อยว่า ไม่ให้ ป๋ากะม้า ทำอะไรที่สำคัญวันจันทร์กะวันศุกร์ ก็เลยเลือกเอาวันอาทิตย์ที่จีโน่เกิดเลยละกัน เราย้ายมานอนที่บ้านกันวันที่ 21 มิถุนา 52 โดยที่ไม่มีอะไรเลย ที่นอน หมอน มุ้ง ยังไม่มาส่งเลย ของทางเรือที่เราเอามาจากเมืองไทยจะมาส่งวันรุ่งขึ้น มาดูรูปบ้านจีโน่กัน วันที่เรามาวันแรก โล่งมาก......


จีโน่เอาแต่ปีนๆ แล้วบันไดก็ชันมาก จีโน่สนุกมากคร๊าบ จะช่วยวัด ช่วยติดสติกเกอร์ตลอด

เช้าวันรุ่งขึ้น มีคนมาแต่เช้า โอ้ววว รถคันใหญ่มากๆมาจอดหน้าบ้านเลย แล้วของ 200 กล่องที่ load มันมาแล้วววว มีพนักงานมาช่วยกันขนประมาณ 6-7 คน รถคันใหญ่มาก มาทั้งตู้ container เลย ขนกันทั้งวัน บ้านมี 3 ชั้น 5 ห้อง ต้องติดป้ายหน้าห้องเป็น code สำหรับบอกให้ขนของไปให้ถูกห้อง แล้วม่าม้าต้องคอยบอกทีละกล่องว่าจะให้ขนไปห้องไหนดี บางทีก็บอกผิด ขนไปชั้นสาม ต้องให้ยกลงมาชั้นล่างใหม่อีกที ขอบอก....ฝรั่ง ก็ ฝรั่งเถอะ เหนื่อยแฮ็ก... แฮ็ก....ลิ้นห้อยเลยเหมือนกัน

ใช้เวลาขนของ 200 กล่อง 1 วัน แล้วก็มาเก็บตกอีกหนึ่งวัน มีของเสียหายบ้าง จานแตกไปบ้าง 2-3 ใบ แล้วก็กล่องพลาสติกก็แตกไปเหมือนกันเพราะโยนแรง แต่ก็ช่างมันแล้วกัน เหนื่อยแล้ว แล้วก็แตกไปแล้ว เอาคืนไม่ได้......ปลง


สุดท้าย มาดูรูปบ้านที่หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการจัดเก็บของกัน กว่าจะเข้าที่ก็ปาเข้าไปเกือบเดือน เย้สำเร็จแล้ววว :)



ตอนนี้จีโน่มีความสุขที่ได้อยู่บ้าน ไม่ชอบออกไปนอกบ้านเลย จะเล่นรถไฟ Thomas อย่างเดียว ชวนไปไหนก็ไม่ไป :P แต่วันพุธแม่อยากไปตลาด แถวบ้านจะมีตลาดกลางแจ้งวันพุธกะวันเสาร์ ชวนจีโน่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป ทุกทีจะชอบไปนั่งรถเมล์กับนั่งรถไฟ แต่ตอนนี้ย๊ากกก ร้องแต่ไม่ไปจีโน่จะอยู่บ้านอย่างเดียว แม่ก็พลอย อดเที่ยวไปด้วยเลย ต้องรอวันเสาร์แล้วให้ป๋าอยู่กะจีโน่ ม่าม้าจะได้ไปช๊อบอย่างสบายใจ :)